วิตามินดี 3 คืออะไร
วิตามินดี 3 มีหน้าที่ในการดูดซึมแคลเซียม ช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย อย่างที่ทราบกันว่า วิตามินดี 3 ได้จากรังสี UVB ในแสงแดด และจากการรับประทานอาหารบางประเภท เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน น้ำมันตับปลา ไข่แดง เนย นม ตับ ผู้ที่เสี่ยงขาดวิตามินดีคือผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ทำงานในที่ร่มตลอดเวลา ซึ่งการขาดวิตามินดีจะส่งผลต่อระดับอารมณ์และภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
อย่างที่ทุกคนทราบ วิตามินดี 3 สามารถสังเคราะห์ได้เองจากแสงแดด แต่เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น การผลิตวิตามินดีทำได้น้อยลง ทำให้คนส่วนใหญ่ขาดวิตามินดี จะดีกว่ามั้ยหากเสริมวิตามินดีได้โดยตรง
วิตามินดีสำคัญแค่ไหน
ลดการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย
ควบคุมความดันโลหิตในร่างกาย
ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
สัญญาณที่บอกว่าร่างกายขาดวิตามินดี 3
- รู้สึกป่วยง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล
- ความดันโลหิตสูง
- อ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- นอนไม่ค่อยหลับ
ฉีดวิตามินดี ดีกว่าทานอย่างไร?
- การฉีดเข้าร่างกายโดยตรง นำไปใช้ได้ทันที
- ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ดูดซึมได้ถึง 100% เพราะไม่ผ่านการทำงานของตับ
- การกินต้องรอย่อยสลายก่อนจะดูดซึมได้
- การกินสามารถดูดซึมได้เพียงแค่ 50%
![](https://uwellness.tech/wp-content/uploads/2024/03/vitamin-d-1-300x300.jpg)
ข้อควรปฎิบัติก่อนฉีดวิตามินดี
- ควรตรวจวัดระดับวิตามินดีก่อน เพื่อให้เหมาะสมในการฉีดวิตามินดี
- ผู้มีภาวะไตทำงานผิดปกติ, ผู้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคหัวใจ ไขมันโลหิตสูง ความดันในเลือดสูง ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับบริการ
- สตรีมีครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ก่อนการใช้วิตามิน D
- แจ้งโรคประจำตัว หรือ ยาประจำตัว วิตามินเสริมต่างๆ เพื่อให้แพทย์ช่วยพิจารณา
มีการค้นพบ Vitamin D Receptor หรือตัวรับที่จับกับวิตามินดีบน T cell และ B cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เซลล์มะเร็ง ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนการให้วิตามินดีเสริมเพื่อช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) และมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer)