เริม โรคใกล้ตัว ที่ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เริมเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังที่มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยทั่วไปผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการของโรค หากไม่มีปัจจัยอย่างอื่นมากระตุ้นเช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเครียด หรือการพักผ่อนน้อย หลายคนคิดว่าโรคเริมติดต่อได้ทางทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วโรคเริมสามารถเกิดการติดต่อได้จากอีกหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ติดเชื้อจากการใช้ห้องน้ำสาธารณะ การดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับผู้ป่วย การใช้ลิปติกแท่งเดียวกับผู้ป่วย เริมเป็นภัยใกล้ตัว ที่ไม่ใช่เรื่องน่าอาย และสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่ตลอด หากสงสัยว่ากำลังป่วยเป็นโรคเริม แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
สาเหตุของโรคเริม
เริมเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus: HSV) ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อจากการสัมผัส เช่น การสัมผัสโดนน้ำเหลืองจากตุ่มโรคเริม การดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับผู้ป่วย หรือการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อได้รับเชื้อในครั้งแรกไวรัสจะเข้ามาสะสมในปมเส้นประสาทโดยที่ยังไม่แสดงอาการโรค แต่เมื่อใดก็ตามที่ภูมิต้านทานของร่างกายอ่อนแอ เชื้อก็จะเคลื่อนที่จากปมประสาทมายังปลายเส้นประสาททำให้อาการของโรคกำเริบขึ้น โดยจะปรากฏเป็นตุ่มน้ำใสๆบนผิวหนัง จะพบได้บ่อยบนบริเวณริมฝีปากและบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งเชื้อ Herpes Simplex Virus: HSV มีสองชนิดด้วยกันคือ
มักจะเกิดอาการของโรคบริเวณปากและผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไป เชื้อตัวนี้จะไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ติดต่อได้ทางน้ำลายผ่านการจูบ ใช้แก้วน้ำหรือช้อนร่วมกัน
มักจะเกิดบริเวณอวัยวะเพศและติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์ โดยจะมีตุ่มน้ำใสกระจายไปทั่วบริเวณช่องคลอดจนถึงใกล้ทวารหนัก พอตุ่มแตกออกก็จะปวดแสบปวดร้อน ซึ่งส่วนใหญ่อาการจะหายไปเองภายในหนึ่งสัปดาห์
อาการของการโรคเริม
โรคเริมจะก่อให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนบนบริเวณที่ติดเชื้อคือที่ปากและอวัยวะเพศ โดยอาการของโรคจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือติดเชื้อครั้งแรก ระยะปลอดอาการ และอาการกลับเป็นซ้ำ
- ติดเชื้อครั้งแรก เริ่มด้วยอาการปวดแสบปวดร้อนและเกิดการบวมบนบริเวณที่ติดเชื้อ โดยใน 2-3 วันต่อมาจะมีตุ่มน้ำใสปรากฎขึ้น ซึ่งตุ่มน้ำจะแตกออกใน 24 ชั่วโมงและตกสะเก็ด โดยตุ่มอาจจะรวมเป็นกลุ่มใหญ่และเป็นแผลกว้างทำให้มีอาการปวด และแผลจะหายไปเองใน 2-3 สัปดาห์
- ระยะปลอดอาการ ช่วงนี้เชื้อจะอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการของโรค หากสามารถดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ก็จะช่วยให้โรคไม่แสดงอาการได้เช่นกัน
- อาการกลับเป็นซ้ำ จะมีอาการของโรคน้อยกว่าครั้งแรกที่เป็น และมักจะกลับมาเป็นบริเวณเดียวกับที่เดิม โดยเฉพาะที่อวัยวะเพศอาจจะกลับเป็นซ้ำได้ 5 ครั้งต่อปี
รักษาอย่างไร หายขาดได้หรือไม่
โดยทั่วไปแล้วถ้าหากอาการไม่รุนแรง โรคเริมสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่การไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการและรับยาต้านไวรัสจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของโรคให้ดีขึ้นได้ การดูแลแผลเริมอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นและลดโอกาสการแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้เช่นกัน โดยวิธีดังนี้
- ติดเชื้อครั้งแรก เริ่มด้วยอาการปวดแสบปวดร้อนและเกิดการบวมบนบริเวณที่ติดเชื้อ โดยใน 2-3 วันต่อมาจะมีตุ่มน้ำใสปรากฎขึ้น ซึ่งตุ่มน้ำจะแตกออกใน 24 ชั่วโมงและตกสะเก็ด โดยตุ่มอาจจะรวมเป็นกลุ่มใหญ่และเป็นแผลกว้างทำให้มีอาการปวด และแผลจะหายไปเองใน 2-3 สัปดาห์
- ระยะปลอดอาการ ช่วงนี้เชื้อจะอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการของโรค หากสามารถดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ก็จะช่วยให้โรคไม่แสดงอาการได้เช่นกัน
- อาการกลับเป็นซ้ำ จะมีอาการของโรคน้อยกว่าครั้งแรกที่เป็น และมักจะกลับมาเป็นบริเวณเดียวกับที่เดิม โดยเฉพาะที่อวัยวะเพศอาจจะกลับเป็นซ้ำได้ 5 ครั้งต่อปี
- หากไม่มั่นใจว่าเป็นรึเปล่า สามารถตรวจได้ ที่นี่
อาการของการโรคเริม
วิธีการป้องกันการติดเชื้อเริมที่ดีที่สุดก็คือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เช่นการใช้แก้วน้ำหรือช้อนร่วมกัน การจูบหรือการมีเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาแล้ว สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดเริมซ้ำได้ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอด เนื่องจากเชื้อไวรัสจะโจมตีร่างกายเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงเท่านั้น